วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ปีใหม่นี้ มาเที่ยวดอยอินทนนท์ กันดีกว่า


อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา ดอยหลวง หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่าดอยอ่างกานั้นมีเรื่องเล่าว่า ห่างจากดอยอินทนนท์ไปทางทิศตะวันตก 300 เมตร มีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือนอ่างน้ำ แต่ก่อนนี้มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมายจึงเรียกว่า อ่างกา ต่อมาจึงรวมเรียกว่า ดอยอ่างกา สิ้นสุดของเส้นทางสายนี้ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย (2,599 เมตร) มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นที่ตั้งของสถานีเรด้าของกองทัพอากาศไทยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้ายซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของป่าไม้และหวงแหนดอยหลวงเป็นอย่างมากต้องการที่จะอนุรักษ์ไว้จนชั่วลูกชั่วหลานท่านผูกพันกับที่นี่มากจึงสั่งว่าหากสิ้นพระชนม์ไปแล้วก็ขอให้แบ่งเอาอัฐิส่วนหนึ่งมาไว้ที่นี่

การเดินทาง ระยะทางจากตัวเมืองขึ้นไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์ประมาณ 106 กิโลเมตร ออกจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-จอมทอง ถึงหลักกิโลเมตรที่ 57 ก่อนถึงอำเภอจอมทอง 1 กิโลเมตร แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 สายจอมทอง-อินทนนท์ ระยะทาง 48 กิโลเมตร ถึงยอดดอยอินทนนท์ เป็นถนนลาดยางอย่างดีแต่ทางค่อนข้างสูงชัน รถที่นำขึ้นไปจะต้องมีสภาพดีนักท่องเที่ยวต้องเสียค่าธรรมเนียมบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 8 ผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นรถสองแถวที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารหรือที่น้ำตกแม่กลาง ซึ่งจะเป็นรถโดยสารประจำทางไปจนถึงที่ทำการอุทยานฯตรงหลักกิโลเมตรที่ 31 และหมู่บ้านใกล้เคียง ค่าโดยสาร 20 บาทต่อคน แต่หากต้องการจะไปยังจุดต่างๆ ต้องเหมาไปคันละ ประมาณ 800 บาท มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 9 ของเส้นทางหมายเลข 1009 มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ และมีนิทรรศการเกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ป่า และอื่นๆ
บริเวณที่ทำการมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม รวมถึงบ้านพัก ร้านอาหาร และสถานที่กางเต็นท์สำรองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์ที่กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. 0 2579 7223, 0 2579 5734 เพื่อป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นและเป็นการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Ecotourism) การใช้สถานที่เพื่อการพักค้างแรมหรือจัดกิจกรรมอื่นๆนอกเหนือจากบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ต้องขออนุญาตจากหัวหน้าอุทยานฯเป็นลายลักษณ์อักษร

วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551


ฌอง ปอล โกลติเยร์ สรรค์สร้างเทศกาลคริสต์มาสของคุณให้สว่างไสวด้วยแสงสีเจิดจรัสที่มาเริงระบำในช่วงเวลาแห่งความสุข อีกครั้งหนึ่งที่ดีไซน์เนอร์ชื่อดังได้รังสรรค์กล่องของขวัญที่คุ้นเคยให้แปลกใหม่ ตระการตา น้ำหอม Classique, Le Male และ Fragile ในกล่องโลหะทรงกลม เปิดฝาด้านบน อันได้รับแรงบันดาลใจจากแก้วใส่เทียน ประดับลวดลายและสีสันของกล่องด้วยปุยหิมะและต้นเฟอร์ สัญลักษณ์ของเทศกาลแห่งความสุขกล่องน้ำหอมหลากสี : สีเมทาลิก สำหรับ Classique EDT สีทองแดง Classique EDP สีทองประกาย สำหรับ Fragile และสีน้ำเงินนกยูงรำแพน สำหรับ Le Male ภายในประกอบด้วยน้ำหอมและบาธไลน์ให้เลือกสรรถึง 6 แบบ ตามความชื่นชอบของคุณ หรือของใครๆ ที่คุณปรารถนามอบความรู้สึกดีๆ ให้แสงเทียนวิเศษจากน้ำหอมฌอง ปอล โกลติเยร์ จุดประกายความสุขสำหรับฤดูหนาวในปีนี้.....

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Christian Dior



















คริสเตียน ดิออร์







สิ้นชีวิต 24 ตุลาคม ค.ศ. 1957



เกิดที่เมือง Granville นอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส
ศึกษาด้านการทูต ณ École des Sciences Politiques (โรงเรียนรัฐศาสตร์) ในกรุงปารีส






เขาเริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นในช่วงปี 1930 และเปิดร้านเสื้อผ้าของเขาเองในปารีส ในปี 1946




เขาได้เปิดตัวแฟชั่นแนวใหม่นามว่า “New Look” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นคือ เสื้อแบบไหล่แคบ






และกระโปรงยาว ซึ่งมาแทนที่เสื้อแบบไหล่กว้างและกระโปรงสั้นแบบตรงในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เสื้อผ้า






แบบ “New LooK” ได้ปฏิวัติวงการแฟชั่นสตรี และทำให้ปารีสกลายเป็นศูนย์กลางของโลกแฟชั่น




การออกแบบของดิออร์ในยุคต่อมา เช่น ชุดแซ็ค (ชุดสตรีปล่อยยาวไม่มีเข็มขัด) แบบทรงตรง ยังคงทำให้






ดิออร์เป็นผู้นำแฟชั่นในระดับสากล จนเมื่อดิออร์เสียชีวิต เขามีร้านเสื้อผ้าใน 24 ประเทศ และได้รับการสืบ






ทอดต่อมาโดย Yves Saint Laurent, Marc Bohan, Gianfranco Ferre และ John Galliano



ปัจจุบัน ดิออร์ยังคงเป็นแบรนด์เนมชั้นดังในโลกแฟชั่นและมีผลิตภัณฑ์มากมายหลายประเภทซึ่งล้วนแล้วแต่




เป็นที่นิยมทั้งสิ้น








วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Gabrielle Chanel




Vers 1907-1908, très courtisée, Gabrielle, qui ne compte pas partager le sort anonyme des "cousettes", est prête à prendre des risques. Lors d'un voyage à Vichy chez son oncle, en quête d'un avenir dont elle refuse qu'il se limite à broder sur des draps de coton, elle se met à poser sur la scène du Beuglant de la Rotonde, un caf' conc' où elle fait ses premières apparitions, silencieuses. Bientôt, elle ose pousser la chansonnette et se met à rêver de music-hall. Âgée de 24 ans, elle se produit en spectacle devant les officiers qui la surnomment « Coco », parce qu'elle chante Qui qu'a vu Coco sur le trocadéro ? (paroles de Baumaine et Blondelet, musique de Deransart). Ce surnom ne la quittera plus.
Admirée par une horde de jeunes garçons fortunés ou titrés, sa jolie silhouette séduit Étienne Balsan, un homme du monde, riche gentleman qui vient de rendre ses galons d'officier pour se consacrer à l'élevage de chevaux et aux courses. Il lui fait découvrir la vie de son château, à
Royallieu près de Compiègne. Pendant près d'un an, elle apprend les arcanes de la haute société. Mais l’idylle ne dure que quelques mois, elle se rend compte qu’elle ne l’aime pas, elle s'ennuie et pleure. Elle a 25 ans et nulle part où se réfugier. Alors elle s'échappe en jodhpurs et va galoper dans la forêt de Compiègne en essayant de défier son avenir.
Heureusement, les fréquentations de Balsan lui font rencontrer son premier amour, l'anglais Arthur Capel (surnommé « Boy »). On le dit fils naturel du banquier Pereire, homme de cheval
(il a une écurie de polo) et d'affaires, il a fait sa fortune dans les frets charbonniers. Un amour « irrégulier » (Il en épousera une autre, mais restera son amant) et sincère, qui va durer 10 ans, jusqu'à son décès accidentel.

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2551

5 ธันวา มหาราช


5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางราชการได้กำหนดให้เป็นวันหยุดราชการหนึ่งวัน เพื่อให้ประชาชนชาวไทย ได้ร่วมกันเฉลิมฉลองในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ ถือเป็นวันพ่อแห่งชาติ อีกวันหนึ่งด้วย วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีความเป็นมาของวันสำคัญ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาล เมาท์ ออเบิร์น นครบอสตัน สหรัฐอเมริกา โดยนายแพทย์วิทท์มอร์ เป็นผู้ถวายการประสูติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ 9 แห่งบรมจักรีวงศ์ กรุงรัตนโกสินทร์ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจและเจริญพระราชจริยาวัตรเป็นเอนกประการ จำเนียรกาลผ่านมาถึงปัจจุบันที่สุดจะพรรณนาให้ครบถ้วนได้ ท่ามกลางมหาสมาคมวันพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ทรงมีกระแสพระราชดำรัสที่พสกนิกรทุกคนยังจดจำได้ "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม" อันคำว่าโดย "ธรรม" นั้น ทรงหมายถึง ธรรมอันล้ำเลิศที่เรียกว่า "ทศพิธราชธรรม" หรือที่เรียกกันโดยสามัญว่า "ราชธรรม 10 ประการ" ราชธรรม 10 ประการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยึดมั่นทรงปฎิบัติโดยเคร่งครัด และส่งผลถึงพสกนิกรทั่วพระราชอาณาจักรนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเหนือเกล้าฯ วันพ่อแห่งชาติ ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษาเป็นผู้ริ่เริ่ม หลักการและเหตุผลในการจัดตั้งวันพ่อ โดยที่พ่อเป็นผู้มีพระคุณที่มีบทบาทสำคัญ ต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสมควรที่สังคมจะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาเป็น "วันพ่อแห่งชาติ" ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างนานัปการ ทรงเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงรักใคร่และห่วงใยตั้งแต่พระเยาว์จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งพระเจ้าหลานเธอทุกพระองค์ต่างซาบซึ้งและปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมิรู้ลืม พระองค์ทรงเป็น "พ่อ" ตัวอย่างของปวงชนชาวไทยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา ทรงห่วงใยอย่างหาที่เปรียบมิได้