วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2552

เที่ยวไทย ไป ตะรุเตา



ประวัติของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ย้อนกลับไปในปี พ.ศ.2482 เมื่อทัณฑสถานและนิคมฝึกอาชีพบนเกาะตะรุเตาถูกสร้างขึ้นสำเร็จ และประกาศใช้อย่างเป็นทางการ แต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งเป็นที่มาของการขาดแคลนปัจจัยการดำรงชีวิตของทั้งนักโทษและผู้คุม ทั้งสองฝ่ายจึงรวมตัวกันเป็นกลุ่มโจรสลัดที่น่าเกรงขาม แต่หลังจากสงครามกองทัพอังกฤษร่วมกับรัฐบาลไทยได้ร่วมกันปราบปรามได้สำเร็จ ไม่นานทัณฑสถานและนิคมฝึกอาชีพตะรุเตาจึงปิดฉากลง ชาวบ้านใกล้เคียงจึงเข้ามาทำมาหากินเพื่อปลูกข้าว ผลไม้ และยางพารา และในปี พ.ศ.2515 เกาะได้ถูกเสนอชื่อให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่บนเกาะตะรุเตาค่อยๆ แยกย้ายออกไป ชาวเลชนเผ่าดั้งเดิมของท้องทะเลอันดามันเองก้อได้ย้ายไปยังหาดอื่นๆ ตามปัจจัยทางฤดูกาลและแหล่งอาหาร ปัจจุบันชาวเลส่วนใหญ่มีการตั้งถิ่นฐานถาวร และกลุ่มย่อยนั้นก้อมีอาศัยอยู่ที่เกาะหลีเป๊ะเช่นกัน

ภูมิศาสตร์ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ประกอบด้วยเกาะต่างๆถึง 51 เกาะ ในทะเลอันดามันตอนล่าง บริเวณรอยต่อระหว่างไทยและมาเลเซีย หมู่เกาะขนาดใหญ่แบ่งย่อยได้ 2กลุ่ม และมีระยะห่างกัน 20 และ 70 กิโลเมตรจากแผ่นดินใหญ่ตามลำดับ เกาะใหญ่ที่สุดคือ เกาะตะรุเตา ซึ่งมีขนาดกว้างและยาว 10และ26 กิโลเมตร ตามลำดับ พื่นที่เกาะส่วนใหญ่ที่เป็นภูเขาครอบคลุมทั้งป่าฝนและป่าโกงกาง นอกจากนี้ยังมีชายหาด และถ้ำต่างๆ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่เช่นกัน เกาะอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ห่างออกไปจากฝั่ง ซึ่งได้แก่ เกาะหลีเป๊ะ เกาะอาดัง เกาะราวี และเกาะดง เกาะขนาดใหญ่ที่สุดในแถบนี้คือ เกาะอาดัง และ เกาะราวี เกาะทั้งสองนี้ มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าฝน ซึ่งในช่วงฤดูฝน แหล่งน้ำตกหลายที่บนเกาะอาดัง จะไหลลงสู่ทะเล น้ำทะเลของเกาะหลีเป๊ะ และเกาะใกล้เคียงจะใสมาก และเป็นที่อาศัยของปะการังและสัตว์ทะเลที่หลากหลาย


ภูมิอากาศ ปกติแล้ว ในแถบนี้จะมี 2ฤดู คือ ฤดูฝน และฤดูร้อน ฤดูฝนจะเริ่มจากปลายเดือนพฤษภาคม ที่จะมีทั้งมรสุมและคลื่นลมในทะเล ส่วนฤดูร้อนจะเริ่มช่วงต้นพฤศจิกายนเป็นต้นไป อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ระหว่าง 27-30 อาศาเซลเซียส ในช่วงเริ่มต้นของฤดูร้อน (เดือนพฤศจิกายน และ เดือนธันวาคม)ค่อนข้างจะมีอุณหภูมิพอเหมาะกับการท่องเที่ยว ในขณะที่ปลายฤดูร้อน(เดือนเมษายน และเดือนพฤษภาคม)อุณหภูมิจะร้อนขึ้นเล็กน้อย และมีความชื้นสูงตลอดทั้งปีที่(ประมาณ 80-85 เปอร์เซ็นต์

ไม่มีความคิดเห็น: